พระอรหันต์มีพลังเหนือธรรมชาติหรือไม่ และ ทำไมพระพุทธเจ้าจึงห้ามสาวกไม่ให้แสดงพลังที่เหนือธรรมชาติ
วิดีโอ
สนทนาธรรมค่ำเสาร์ วันที่ 16 มี.ค. 56
บรรยายธรรมโดย พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล
วัดนาป่าพง ลำลูกกา คลอง 10 ปทุมธานี
ดาวน์โหลด : คลิกที่นี่
พระสูตรที่เกี่ยวข้อง
   สุสิมะ! เธอเห็นไหมว่าชรามรณะมีเพราะชาติเป็นปัจจัย ?        "อย่างนั้นพระเจ้าข้า!"
 สุสิมะ เธอเห็นไหมว่าชาติมีเพราะภพเป็นปัจจัย ?         "อย่างนั้นพระเจ้าข้า!"
 สุสิมะ! เธอเห็นไหมว่าภพมีเพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ?        "อย่างนั้นพระเจ้าข้า!"
 สุสิมะ! เธอเห็นไหมว่าอุปาทานมีเพราะตัณหาเป็นปัจจัย ?         "อย่างนั้นพระเจ้าข้า!"
 สุสิมะเธอเห็นไหมว่าตัณหามีเพราะเวทนาเป็นปัจจัย ?        "อย่างนั้นพระเจ้าข้า!"
 สุสิมะ! เธอเห็นไหมว่าเวทนามีเพราะผัสสะเป็นปัจจัย ?         "อย่างนั้นพระเจ้าข้า!"
 สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่าผัสสะมีเพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ?         "อย่างนั้นพระเจ้าข้า!"
 สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่าสฬายตนะมีเพราะนามรูปเป็นปัจจัย ?        "อย่างนั้นพระเจ้าข้า!"
 สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่านามรูปมีเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย ?         "อย่างนั้นพระเจ้าข้า!"
 สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่าวิญญาณมีเพราะสังขารเป็นปัจจัย ?         "อย่างนั้นพระเจ้าข้า!"
 สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่าสังขารทั้งหลายมีเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย?        "อย่างนั้นพระเจ้าข้า!"
 (ต่อไปได้ตรัสชักนำให้เห็นปฏิจจสมุปบาทฝ่ายนิโรธวาร   โดยรูปแบบแห่งถ้อยคำอย่างเดียวกับข้อความข้างบนนี้ครบทั้ง ๑๑ อาการแล้วได้ตรัสว่า 
   สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้เห็นอยู่อย่างนี้เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำ        ให้มีอิทธิวิธีมีอย่างต่างๆอยู่อีกหรือคือคนเดียวแปลงรูปเป็นหลายคน, หลายคนเป็นคนเดียว, ....ฯลฯ....        และแสดงอำนาจทางกายเป็นไปตลอดถึงพรหมโลกได้ดังนี้.        "ข้อนั้นหามิได้พระเจ้าข้า !"
สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้เห็นอยู่อย่างนี้เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำ        ให้มีทิพพโสตอยู่อีกหรือคือมีโสตธาตุอันเป็นทิพย์ ....ฯลฯ....        ทั้งที่ไกลและที่ใกล้ดังนี้.         "ข้อนั้นหามิได้พระเจ้าข้า ! "
สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้เห็นอยู่อย่างนี้เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มีเจโตปริยญาณอยู่อีกหรือ        คือกำหนดรู้ใจแห่งสัตว์อื่น ....ฯลฯ... จิตไม่หลุดพ้นว่าไม่หลุดพ้นดังนี้.         "ข้อนั้นหามิได้พระเจ้าข้า ! "
สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้เห็นอยู่อย่างนี้เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มีปุพเพนิวาสานุสสติญาณอยู่อีกหรือ        คือระลึกได้ถึงขันธ์ที่เคยอยู่อาศัยในภพก่อนมีอย่างต่างๆ ....ฯลฯ....        พร้อมทั้งอาการและอุทเทสด้วยอาการอย่างนี้ดังนี้.          "ข้อนั้นหามิได้พระเจ้าข้า ! 
สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้เห็นอยู่อย่างนี้เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มีทิพพจักขุญาณอยู่อีกหรือ        คือมีจักษุอันเป็นทิพย์บริสุทธิ์หมดจดล่วงจักษุของสามัญมนุษย์ ....ฯลฯ....        รู้ชัดหมู่สัตว์ผู้เข้าถึงตามกรรมได้ดังนี้.          "ข้อนั้นหามิได้พระเจ้าข้า ! 
สุลิมะ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้เห็นอยู่อย่างนี้เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มีอารุปปวิโมกข์อยู่อีกหรือ        คือวิโมกข์เหล่าใดอันสงบรำงับเป็นอรูปเพราะก้าวล่วงรูปเสียได้        เธอถูกต้องวิโมกข์เหล่านั้นด้วยนามกายแล้วแลอยู่ดังนี้        "ข้อนั้นหามิได้พระเจ้าข้า ! 
สุสิมะ ! คราวนี้, คำพูดอย่างโน้นของเธอกับการที่ ( เธอกล่าวบัดนี้ว่า )         ไม่ต้องมีการบรรลุถึงอภิญญาธรรมทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้,ในกรณีนี้นี้เราจะว่าอย่างไรกัน
   (ไทย) นิทาน. สํ. ๑๖/๑๒๓/๒๙๔-๓๐๒.
: คลิกดูพระสูตร (บาลี) นิทาน. สํ. ๑๖/๑๕๔/๒๙๔-๓๐๒.
: คลิกดูพระสูตร   
	   [๓๓] ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น        ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้นแล้วทรงสอบถามท่านพระปิณโฑลภารทวาชะว่าภารทวาชะข่าวว่า        เธอปลดบาตรของราชคหเศรษฐีลงจริงหรือท่านพระปิณโฑลภารทวาชะทูลรับว่าจริง พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่าภารทวาชะการกระทำของเธอนั่น  ไม่เหมาะไม่สม        ไม่ควรไม่ใช่กิจของสมณะใช้ไม่ได้ไม่ควรทำไฉนเธอจึงได้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ซึ่งเป็นธรรม        อันยวดยิ่งของมนุษย์แก่พวกคฤหัสถ์เพราะเหตุแห่งบาตรไม้ซึ่งเป็นดุจซากศพเล่ามาตุคาม        แสดงของลับเพราะเหตุแห่งทรัพย์ซึ่งเป็นดุจซากศพแม้ฉันใดเธอก็ฉันนั้นเหมือนกันได้แสดง        อิทธิปาฏิหาริย์ซึ่งเป็นธรรมอันยวดยิ่งของมนุษย์แก่พวกคฤหัสถ์เพราะเหตุแห่งบาตรไม้ซึ่งเป็น        ดุจซากศพการกระทำของเธอนั่นไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชน   ที่ยังไม่เลื่อมใส ... ครั้นแล้ว        ทรงทำธรรมีกถารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า   ดูกรภิกษุทั้งหลาย         ภิกษุไม่พึงแสดงอิทธิปาฎิหาริย์ซึ่ง เป็นธรรมอันยวดยิ่งของมนุษย์แก่พวกคฤหัสถ์รูปใดแสดงต้องอาบัติทุกกฏ   ดูกรภิกษุทั้งหลาย        พวกเธอจงทำลายบาตรไม้นั่นบดให้ละเอียดใช้เป็นยาหยอดตาของภิกษุทั้งหลายอนึ่งภิกษุไม่พึง        ใช้บาตรไม้รูปใดใช้ต้องอาบัติทุกกฏฯ   (ไทย) จุลฺล.วิ ๗/๑๑/๓๓:คลิกดูพระสูตร
 (บาลี) จุลฺล.วิ ๗/๑๕/๓๓:คลิกดูพระสูตร
 
	
 
	



