การแก้กรรม โดยการออกจากระบบของกรรม คืออย่างไร
   
   บางส่วนจากการแสดงธรรม ณ.วัดบ้านไผ่   บรรยายธรรมโดย พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล วัดนาป่าพง ลำลูกกา คลอง ๑๐ ปทุมธานี ดาวน์โหลด : mp4   
 แสดงธรรมโดย พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล  วัดนาป่าพง ลำลูกกา คลอง ๑๐ ปทุมธานี ดาวน์โหลด mp3 : คลิกที่นี่วิดีโอ
๒๐ กันยายน ๒๕๕๕เสียง
 
พระสูตรที่เกี่ยวข้อง
 ภิกษุทั้งหลาย !   เรากล่าวซึ่งเจตนาว่าเป็นกรรม  เพราะว่าบุคคลเจตนาแล้ว ย่อมกระทำซึ่งกรรมด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ. ภิกษุทั้งหลาย !   นิทานสัมภวะ (เหตุเป็นแดนเกิดพร้อม) แห่งกรรมทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุทั้งหลาย !   นิทานสัมภวะแห่งกรรมทั้งหลาย คือ ผัสสะ.   ภิกษุทั้งหลาย !   กัมมนิโรธ  (ความดับไม่เหลือแห่งกรรม)  เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุทั้งหลาย !   ความดับแห่งกรรมทั้งหลาย  ย่อมมีเพราะความดับแห่งผัสสะ. ภิกษุทั้งหลาย !   กัมมนิโรธคามินีปฏิปทา(ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งกรรม) เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุทั้งหลาย !   อริยอัฏฐังคิกมรรค (อริยมรรคมีองค์แปด)  นี้นั่นเอง  คือ  กัมมนิโรธคามินีปฏิปทา; ได้แก่สิ่งเหล่านี้คือ :- สัมมาทิฏฐิ(ความเห็นชอบ) สัมมาสังกัปปะ  (ความดำริชอบ) สัมมาวาจา(การพูดจาชอบ) สัมมากัมมันตะ  (การทำการงานชอบ) สัมมาอาชีวะ     (การเลี้ยงชีวิตชอบ) สัมมาวายามะ   (ความพากเพียรชอบ) สัมมาสติ  (ความระลึกชอบ) สัมมาสมาธิ      (ความตั้งใจมั่นชอบ). พุทธวจน  แก้กรรม  หน้า ๒. (ไทย) ฉกฺก. อํ. ๒๒/๓๖๕/๓๓๔.  : คลิกดูพระสูตร (บาลี) ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๕๘/๓๓๔.  : คลิกดูพระสูตร 
	 ภูมิชะ ! เปรียบเหมือนบุรุษต้องการน้ำมันแสวงหาน้ำมัน  จึงเที่ยวเสาะหาน้ำมัน  แต่เกลี่ยทรายลงในรางแล้วคั้นไปเอาน้ำพรมไปๆ …   ถ้าแม้ทำความหวัง  แล้วเกลี่ยทรายลงในราง คั้นไป  เอาน้ำพรมไปๆ  เขาก็ไม่สามารถจะได้น้ำมัน ถ้าแม้ทำความไม่หวัง  แล้วเกลี่ยทรายลงในราง คั้นไป  เอาน้ำพรมไปๆ เขาก็ไม่สามารถจะได้น้ำมัน ถ้าแม้ทำทั้งความหวังและความไม่หวัง แล้วเกลี่ยทรายลงในราง คั้นไป เอาน้ำพรมไปๆเขาก็  ไม่สามารถจะได้น้ำมัน ถ้าทำความหวังก็มิใช่ความไม่หวังก็มิใช่ แล้วเกลี่ยทรายลงในราง  คั้นไป เอาน้ำพรมไปๆ เขาก็  ไม่สามารถจะได้น้ำมัน ...นั่นเพราะเหตุไร... ภูมิชะ ! เพราะเขาไม่สามารถจะได้น้ำมันโดยวิธีไม่แยบคาย ฉันใด   ภูมิชะ ! ฉันนั้นเหมือนกันแล... สมณะหรือพราหมณ์พวกใดพวกหนึ่งที่ มี มิจฉาทิฏฐิ  มีมิจฉาสังกัปปะ มีมิจฉาวาจา มีมิจฉากัมมันตะ  มีมิจฉาอาชีวะ  มีมิจฉาวายามะ   มีมิจฉาสติ  มีมิจฉาสมาธิ ... ถ้าแม้ทำความหวัง แล้วประพฤติพรหมจรรย์ เขาก็ ไม่สามารถจะบรรลุผล ถ้าแม้ทำความไม่หวัง แล้วประพฤติพรหมจรรย์ เขาก็ ไม่สามารถจะบรรลุผล ถ้าแม้ทำทั้งความหวังและความไม่หวัง แล้วประพฤติพรหมจรรย์  เขาก็ ไม่สามารถจะบรรลุผล ถ้าแม้ทำความหวังก็มิใช่ความไม่หวังก็มิใช่ แล้วประพฤติพรหมจรรย์ เขาก็  ไม่สามารถจะบรรลุผล... นั่นเพราะเหตุไร ภูมิชะ ! เพราะเขาไม่สามารถจะบรรลุผลได้โดยอุบายไม่แยบคาย  …ฯ…  (ไทย) อุปริ. ม. ๑๔/๒๑๗/๔๑๐. : คลิกดูพระสูตร (บาลี) อุปริ. ม. ๑๔/๒๑๗/๔๑๐. : คลิกดูพระสูตร     
	 ภูมิชะ !  เปรียบเหมือนบุรุษต้องการน้ำมัน  แสวงหาน้ำมันจึงเที่ยวเสาะหาน้ำมัน  เกลี่ยงาป่นลงในรางแล้วคั้นไป  เอาน้ำพรมไปๆ  ถ้าแม้ ทำความหวังแล้วเกลี่ยงาป่นลงในราง  คั้นไป  เอาน้ำพรมไปๆ  เขาก็สามารถได้น้ำมัน … ถ้าแม้ ทำความไม่หวังแล้วเกลี่ยงาป่นลงในราง  คั้นไป  เอาน้ำพรมไปๆ  เขาก็สามารถได้น้ำมัน ...  ถ้าแม้ ทำทั้งความหวังและความไม่หวังแล้ว เกลี่ยงาป่นลงในรางคั้นไป  เอาน้ำพรมไปๆ  เขาก็สามารถได้น้ำมัน ...  ถ้าแม้ ทำความหวังก็มิใช่ความไม่หวังก็มิใช่แล้ว เกลี่ยงาป่นลงในรางคั้นไป เอาน้ำพรมไปๆ   เขาก็สามารถได้น้ำมัน นั่นเพราะเหตุไร    ภูมิชะ !  เพราะเขาสามารถได้น้ำมันโดยวิธีแยบคาย  ฉันใด    ภูมิชะ ! ฉันนั้นเหมือนกันแล  สมณะหรือพราหมณ์พวกใดพวกหนึ่งที่มี สัมมาทิฏฐิ   มีสัมมาสังกัปปะ  มีสัมมาวาจา   มีสัมมากัมมันตะ   มีสัมมาอาชีวะ  มีสัมมาวายามะ  มีสัมมาสติ  มีสัมมาสมาธิ  … ถ้าแม้ ทำความหวังแล้ว ประพฤติพรหมจรรย์  เขาก็สามารถบรรลุผล … ถ้าแม้ ทำความไม่หวังแล้ว ประพฤติพรหมจรรย์  เขาก็สามารถบรรลุผล …   ถ้าแม้ ทำทั้งความหวังและความไม่หวังแล้ว  ประพฤติพรหมจรรย์  เขาก็สามารถบรรลุผล...  ถ้าแม้ ทำความหวังก็มิใช่ความไม่หวังก็มิใช่แล้วประพฤติพรหมจรรย์  เขาก็สามารถบรรลุผล…  นั่นเพราะเหตุไร  ภูมิชะ ! เพราะเขาสามารถบรรลุผลได้โดยอุบายแยบคาย  …ฯ… (ไทย) อุปริ. ม. ๑๔/๒๑๙/๔๑๕. : คลิกดูพระสูตร (ไทย) อุปริ. ม. ๑๔/๒๗๙/๔๑๕. : คลิกดูพระสูตร 
	
 
	
